“เพศทางเลือก” ที่บางทีก็ไม่ได้เลือก
“พี่อ้อยว่า จะมีรักแท้ในเพศที่ 3 ไหมครับ ?” “หนูคบกับผู้หญิงด้วยกัน ทำยังไงให้ครอบครัวและสังคมยอมรับคะ ?” ช่วงหลังๆ คำถามประเภทนี้ได้ยินกันถี่เหลือเกิน...
รักแท้น่ะมี แต่บางทีก็ไม่ได้เกิดกับเรา ถามว่าจะเกิดกับใครก็ไม่มีคำตอบที่แน่นอนอยู่ดี โลกนี้ไม่ได้อนุญาตให้เรารู้อะไรล่วงหน้าก่อนทั้งนั้น ต่อให้เป็นหมอดูที่ใครๆ เขาว่าแม่น แม้แต่เครื่องมืออันทันสมัยที่ใครๆ บอกว่าพยากรณ์ดินฟ้าอากาศได้ไม่พลาด ก็เห็นว่าบางโอกาส ไม่ได้เป็นอย่างที่พยากรณ์กันเอาไว้ก็มี
รักจะแท้ไหม บางทีต้องดูกันไกลถึงวันสุดท้ายของชีวิต วันที่ลมหายใจรวยริน ฉันยังเห็นเธออยู่ใกล้ๆ ไม่เคยนอกใจทำร้ายหัวใจฉันซักนิดเดียว บางคู่ รักและดูแลกัน หมดอายุขัยเท่านั้นที่รักจะพรากจากเรา พอจัดงานศพ อ้าว !! ลูกเต้าเหล่าใครมานั่งร้องไห้กระจองอแง ที่แท้เธอแอบมีบ้านใหญ่ บ้านเล็ก ซ่อนไว้ซะเงียบเชียบ วันนี้ที่ร้องไห้เสียใจ เลยไม่รู้ว่าระหว่างเธอจากไป กับเพิ่งรู้ว่าเธอนอกใจ อันไหนเศร้ากว่า ช่างมันเถอะค่ะ รักจะแท้หรือไม่แท้ ที่แน่ๆ คือดูแลรักที่เรามีให้เป็นรักที่ดีที่สุดก็แล้วกัน รักแท้ไม่ได้อยู่ที่เราเป็นเพศไหน แต่อยู่ที่รักกับใคร เรื่องที่อาจลำบากใจก็คือ พอเป็นเพศที่ 3 การยอมรับจากคนที่บ้าน อาจจะไม่ได้ราบรื่น ชื่นหัวใจอย่างที่เราอยากได้ ยังเคยตอบไปว่า ก็รักกันไป แบบที่ยังไม่ต้องบอกใครไม่ได้หรือ บางคนเพิ่งคบกัน กลับอยากแถลงข่าวเปิดตัวกับที่บ้านซะแล้ว เดี๋ยวๆๆๆ ไปรักกันให้มั่นคงมั่นใจก่อนไหม ถ้ารักกันไป ต่างฝ่ายต่างดูแลหัวใจ ชักนำกันไปทำแต่สิ่งที่ดี พ่อแม่เห็นลูกคบเพื่อนคนนี้ มีแต่เรื่องดีๆ ทำแต่สิ่งดีๆ บางทีข้างหน้า ท่านอาจทำใจได้ว่า ไม่ว่าจะเพศไหน แค่ขอให้เขาเป็นคนดี และดูแลลูกเราดีๆ ก็พอแล้ว เพราะทุกวันนี้สิ่งที่เห็นกันคือ ต่อให้เป็นชายจริงหญิงแท้ ก็ใช่ว่าความรักจะแย่ไม่ได้
ต่อให้เกิดมาอยู่บนผิวโลกนานขนาดไหน แต่ไม่มีใครรู้จักโลกนี้ดีที่สุด โลกหมุนไปทุกวัน ยังมีเรื่องอัศจรรย์ใจให้ได้เรียนรู้อยู่เรื่อยๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้บนโลกกลมๆ ใบนี้… น้องคนหนึ่งส่งเมล์มาเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง
“เคยได้ยินนิยามของคำว่า 'ทอมกลับใจ' ไหมคะ ยอมรับว่าตอนแรก ไม่ค่อยชอบคำนี้ซักเท่าไหร่ แต่จริงๆ มันคือการรู้ใจตัวเองว่าเราต้องการแบบไหนกันแน่ ฉันอยากเป็นคนที่ได้รับการดูแล มากกว่าดูแลคนอื่น อยากเป็นคนที่ถูกเข้าใจ มากกว่าจะพยายามเข้าใจคนอื่น แต่ก่อนคบผู้หญิง มันเหนื่อยที่ต้องทำเป็นเข้มแข็งเพื่อดูแลเขา ทั้งๆ ที่ใจเราก็อ่อนแอและอ่อนไหวมากๆ เหมือนกัน จนเริ่มไม่แน่ใจว่า หรือเราไม่เคยเป็นฝ่ายได้รับ เมื่อวันหนึ่งที่เราได้รับ เลยรู้สึกดีมากๆ ว่าคือเขานี่แหละ ที่มาเติมเต็มทุกสิ่งที่เราขาดหายไป
ผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนค่ะ เจอกันที่เทศกาลดนตรีแห่งหนึ่ง ตอนแรกยังไม่คิดอะไร และยังเด็กกันมากๆ ทั้งคู่ ประมาณ ม.3 ได้…พอ ม.4 เจอกันอีกทีที่สงกรานต์สีลม หลังจากนั้นก็แอด MSN ไป ตามประสาเพื่อนที่เคยเที่ยวด้วยกัน เพื่อถามว่า ปีนี้ไปอีกไหม เมื่อไหร่อะไรยังไง ประมานนี้ พอเราคุยกันทุกวัน ก็เริ่มมีความรู้สึกสนุกและมีความสุขมากๆ จนเริ่มเกิดความรู้สึกแปลกๆ บางอย่างขึ้น ไม่แน่ใจว่า เหงา หรือแค่หวั่นไหว เขาโทรมาบอกว่า ไม่ได้คิดกับเราแค่เพื่อน ตอนนั้นอึ้งไปสักพัก เราไม่ได้ชอบผู้ชาย ตกใจมาก แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนและเขาก็ทำให้เรารู้สึกดี จึงรักษาน้ำใจ คุยกับเขาต่อ
เขาบอกว่าเขามั่นใจ เขาแน่ใจ เขาทำทุกวิถีทางให้เรารู้สึกดีกับเขา และยอมรับความรู้สึกที่เขามี ทุกๆ ครั้งที่เจอกัน เขาจะมาถามว่ากี่เปอร์เซ็นต์แล้ว? เราเพิ่มให้ทีละ 10 จนเกิดความสงสัยว่า ถ้าครบ 100 จะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ตอบกลับมาว่า ก็เป็นแฟนกันไง มันไม่ง่ายขนาดนั้นน่ะสิ เพราะเราต้องเริ่มต้นใหม่หมดกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ฉันถามเขาทุกวันว่าแน่ใจแล้วหรือ เราเป็นแบบนี้ แต่งตัวแมนๆ เหมือนกัน เดินด้วยกัน แกอาย และแกรับได้รึเปล่า? เขากลับไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง เขาเคยพูดว่า ความจริงแกไม่ใช่ทอมหร็อก ฉันดูแกออก แกแค่แต่งตัวแบบนั้น นิสัยแกผู้หญิงมาก เขายังคงทำให้เราเชื่อใจต่อไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง วันที่ให้ใจเขาไป 100% และพร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่างโดยไม่แคร์สายตาคนรอบข้าง แต่วันนั้น เขากลับเป็นคนที่เปลี่ยนไป!! โดยที่ไม่รู้ว่าทำอะไรผิด และเขาเปลี่ยนแปลงไปเพราะอะไร หรือเข้ามาเพราะรู้สึกท้าทายอะไรบางอย่าง
2-3 วันที่เขาไม่โทรมา ทรมานมาก ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย จนวันที่ 4 ทนไม่ไหว เลยโทรไปเพื่อถามความแน่ใจ เขารับช้ามาก ทำน้ำเสียงเหมือนกลบเกลื่อนและรู้สึกผิดอะไรบางอย่าง แค่นั้นก็รู้แล้ว เวลาสั้นๆ อาจไม่ต้องไปฝังใจอะไรมาก แต่สำหรับฉัน กับความรักครั้งเดียว ที่ทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเองขนาดนี้ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ ฉันหลงรักผู้ชายไปแล้ว ฉันคงไม่ใช่ทอม...ฉันไม่สามารถเดินตามทางเดิมได้ แล้วไหนจะผู้หญิงที่ฉันต้องไปเคลียร์อีก จนวันหนึ่ง รู้ว่าเขาไปคุย ไปคบกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง รู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ไม่มีน้ำตาให้เสียแล้ว เลยตัดสินใจเลิกติดต่อกับเขาในทุกทาง แค่ส่งข้อความไปบอกว่า
'ขอโทษนะ เราคิดว่าเรากลับไปเป็นเพื่อนกับแกไม่ได้ เราทนไม่ได้ ถ้าเห็นแกรักใครใหม่ ไว้ให้ฉันทำใจได้เมื่อไหร่ แล้วเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกัน'
ทุกวันนี้กลัวผู้ชายไปเลยค่ะ ไม่กล้าเข้าใกล้ ทั้งๆ ที่ก็เป็นผู้หญิงแล้ว หลายครั้งที่สับสนว่ามันคืออะไรกันแน่ มีคนเข้ามาแต่ไม่เปิดใจ เพราะทำตัวไม่ถูก มันกลัวจริงๆ”
ทุกวันนี้กลัวผู้ชายไปเลยค่ะ ไม่กล้าเข้าใกล้ ทั้งๆ ที่ก็เป็นผู้หญิงแล้ว หลายครั้งที่สับสนว่ามันคืออะไรกันแน่ มีคนเข้ามาแต่ไม่เปิดใจ เพราะทำตัวไม่ถูก มันกลัวจริงๆ”
เวลารักใคร เราไม่ได้รักที่เขาเป็นเพศตรงข้ามกับเรา หรือเป็นเพศเดียวกับเรา เรารัก ชื่นใจ อุ่นใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ ใคร คนนั้นต่างหาก มีหลายคนที่เคยตกใจ ฉันรักผู้ชายมาครึ่งค่อนชีวิต อยู่ๆ ทำไมมาแพ้ใจกับผู้หญิงด้วยกัน บางคนแต่งงานกับภรรยามาเป็น 10 ปี อยู่ดีๆ กลับไปคบกิ๊กใหม่เป็นผู้ชาย ทั้งเสียใจ รู้สึกผิดกับภรรยา และสิ่งที่ยากหนักหนาคือ รับไม่ได้ ที่ตัวเองกลับชอบผู้ชายด้วยกัน มันเกิดขึ้นกันได้ค่ะ...
สิ่งที่ฝังอยู่ในใจน้องตอนนี้ คือเรายอมเป็นทอมกลับใจ ทำไมยังมาทิ้งกันไปอีก น้องคิดว่านี่คือการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ แล้วทำไมถึงกลายมาเป็นแบบนี้...การมีความรัก ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เขาก็แค่คนที่ทำให้เราเลิกเข้าใจผิดในตัวเอง น้องไม่ได้ทรานส์ฟอร์เมอร์ หรือกลายร่าง กลายพันธุ์ เราแค่เจอคนที่คิดว่าจะรักกัน แต่กลายเป็นฉันที่รักเธอฝ่ายเดียว มันก็แค่ 1 เหตุการณ์อกหักในชีวิตที่ใครๆ ก็เคยเป็น มาจีบ มาทำให้รัก มายุให้อยากแล้วจากไป มาทำให้เรามีใจ แล้วสุดท้ายเหมือนจะบอกว่าที่ผ่านมาไม่คิดอะไร เราแค่มาเจอคนที่ไม่รับผิดชอบความรู้สึกของกันและกัน เขาไม่รัก เรายิ่งต้องรักตัวเองนะน้อง เขาไม่ได้ทำให้เราหมดคุณค่า หรือสูญเสียความมั่นใจ เรายังคงเป็นตัวเรา รักได้ร้องไห้เป็น เจ็บ เศร้า เหงา อ่อนแอ แล้วก็พบว่า เดี๋ยวเรื่องแย่ๆ มันก็ผ่านไป
ทุกอย่างคือบทเรียนจ้ะ จะเป็นเพศไหน หัวใจเราก็เปราะบางไม่ต่างกัน เจอคนที่รัก เราก็อยากดูแล เจอคนที่แย่ เราก็แค่กลับมาดูแลตัวเอง อดีตเศร้า เราก็ต้องทำปัจจุบันดีๆ อนาคตข้างหน้ายังมี เขาไม่ใช่คนเดียวบนโลกใบนี้ที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิต ขอบคุณเขาเถอะ เขาทำให้เรารู้ว่า ที่ไหนมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ แต่ที่เรายอมทุกข์ เพราะมันมีความสุขซ่อนอยู่ในนั้น และจะว่าไป เขาทำให้เรารู้จักบางมุม ที่เราไม่เคยค้นเจอจนได้มาเจอกับเธอนั่นแหละ
น้ำตาไหล ก็ร้องไห้ พอยิ้มได้ก็เดินหน้าต่อไป หากครั้งหน้าไปเจอใคร จะเป็นเพศไหน ก็ดูใจกันนานๆ การกลัวอาจเป็นเรื่องดี บางทีเหมือนได้แตะเบรก หรือสร้างกำแพงป้องกันหัวใจ ถ้าวันหนึ่งเจอใครที่เรารู้สึกว่าใช่จริงๆ ชอบจริงๆ สิ่งแรกที่คิดจะทำคือ เราจะพังกำแพงของตัวเองอย่างอัตโนมัติ พอดูใจกันไป คบกันไปแล้วยังไปเจอคนใจร้าย สุดท้ายเราก็รอดมาได้อยู่ดี ครั้งที่แล้วลุกยังไง ตอนนี้ถ้าล้มไป เราก็ลุกขึ้นมาใหม่ให้ได้คล้ายๆ เดิม มันเท่านั้นเอง.
อ้างอิง http://www.thairath.co.th/content/423678
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น